|
นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล
ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ประสบการณ์ตอนผมไปยุโรป
สถานที่สาธารณะ
หนุ่มสาวยืนจูบปากกันอย่างดูดดื่ม
แถมจูบกันตั้งนานด้วย
ก็ไม่เห็นมีชาวบ้านชาวเมืองคนไหนให้ความสนใจ
ยกเว้นหนุ่มหล่อ
ชาวเอเซียคนหนึ่งที่หน้าตาไม่ต่างจากผู้เขียน
พฤติกรรมทางเพศของมนุษย์เป็นผลพวงจากปัจจัยหลายๆ
อย่างทั้งปัจจัยทางชีวภาพ
และทางจิตใจ หากแต่การแสดงออกทางเพศจะมากหรือน้อยแค่ไหน
มันขึ้นอยู่กับปัจจัย
ทางสังคมร่วมด้วย จะมีกิจกรรมแห่งรักมันต้องดูกาลเทศะ
ยิ่งล้ำลึก
ยิ่งต้องเป็นส่วนตัว
นี่ถ้าหนุ่มสาวไทยขืนทำแบบเดียวกันในที่สาธารณะ
มีหวังถูกตำหนิจากไทยมุง
ที่ชำเลืองมองโดยรอบ
ด้วยความหวังดีอยาก " ร่วมด้วยช่วยกัน "
ฝรั่งคู่นั้นเอง ถ้ามาเที่ยวเมืองไทย
มาจูบกันแบบเดิมก็เป็นเรื่องไม่สมควร
เพราะวัฒนธรรมไทยถือว่าการแสดงความรักด้วยการจูบจะเหมาะสมหากกระทำ
ในที่ลับหูลับตาผู้คน ไม่เกิดภาพไปกระแทก " ริดสีดวงใจ " ของมวลมหาชน
วัฒนธรรมจึงเป็นบรรทัดฐานในการประเมินพฤติกรรมว่าถูกต้อง -
ผิด,
เหมาะสม - ไม่สมควร, ดี ชั่ว
จารีต ธรรมเนียมปฏิบัติในกิจกรรมต่างๆ
ของมนุษย์มีความแตกต่างกันในแต่ละชุมชน
หนุ่มสาวยุค 2000 ท่ามกลางสังคมไทย
ที่คละเคล้าไปด้วยวัฒนธรรมไทยที่ถือปฏิบัติมา
แต่ดั้งเดิมแต่ถูกผสมผสานกับวัฒนธรรมตะวันตกที่ทั้งฮิตทั้งฮ็อต
จึงตกอยู่ใน
ภาวะสับสน
ในค่านิยมปฏิบัติทางเพศที่มีความแตกต่างกันในสองวัฒนธรรม
กระแสวัฒนธรรมตะวันตกส่วนหนึ่งหลั่งไหลผ่าน " สื่อภาพยนต์ "
ฮอลลีวู้ด
ทะลุสายตา แทรกซึมสู่สมอง สนองเป็นการปฏิบัติ
ตามค่านิยมใหม่ๆ โดยเฉพาะ
ค่านิยมเรื่องเพศ
ผมสรุปค่านิยมทางเพศที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางเพศของหญิงไทย
ที่สำคัญได้ 3 อย่าง
ผู้หญิงกล้าแสดงออกมากขึ้น
สมัยก่อนถ้าสาวชอบใจหนุ่มคนไหน
ก็คงต้องสงวนท่าที สังคมไทยสมัยก่อนไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มต้น
ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ชายเป็นฝ่ายจีบก่อน
ผู้หญิงคงทำได้แค่ชม้ายชายตา
เดี๋ยวนี้ถ้าดูหนังฝรั่ง
ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มจีบผู้ชายก่อนแล้ว ยกตัวอย่างสักสองเรื่อง
Nothing Hill
จูเลีย โรเบิร์ต นางเอกปิ๊งพระเอกหนุ่มคนขายหนังสือ
เลยเป็นฝ่ายขอความรักซะเอง
ตอนแรกพระเอกก็รักนวลสงวนตัว ตอนจบกลับเปลี่ยนใจยอมเป็นของนางเอกคนสวย,
Bouce กวินเน็ท แพทโธรว์นางเอก สูญเสียสามีจากเครื่องบินตก
พระเอกหนุ่มของเราคอยมาดูแลช่วยเหลือ จนนางเอกถูกชะตา
เลยเริ่มเป็นฝ่ายนัดหมาย
และ "จีบ" ซะเลย
ปัจจุบันสาวไทยกล้าบอกรักชายหนุ่มมากขึ้น
แทนที่จะมัวทอดสะพาน
เหมือนแต่ก่อน
เดี๋ยวนี้ เขา "พัฒนา" แล้ว !
ท่าทางในการมีเพศสัมพันธ์
แต่ดั้งแต่เดิมมา " Missionary
Position "
หรือท่าหญิงอยู่ล่าง ชายอยู่บนได้รับความนิยมมาตลอดทุกยุคทุกสมัย
ผลการเรียกร้องสิทธิสตรี
ไม่ยอมแล้วที่จะให้ผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศให้ฝ่ายชายระบายความต้องการอยู่
ข้างเดียว
ตอนนี้เห็นมีแต่ "Woman on top" มาแรงแซงทุกท่า
ยกตัวอย่างหนังดังถ่ายทำในเมืองไทย
โดยพระเอกดัง ลีโอนาโด หวานใจสาวๆ ในหนังเรื่อง The Beach ตอนมาขึ้น
ฝั่งกับ
" เจ้าแม่ " พักด้วยกัน ฉากมีเซ็กส์กัน ผู้ชายนั่ง ผู้หญิงอยู่บน
ภาพนี้เห็นถูกก็อปปี้อีกครั้ง
ในหนังไทยเรื่อง แม่เบี้ย
ดูเรื่องไหนๆ
ก็เห็นเป็นอย่างนี้ไปหมดแล้ว
มีเซ็กส์กันง่ายดาย
รู้จักกันไม่กี่วัน ก็สนุกกันซะแล้ว
จำฉากในรถเก๋ง
บนเรือไตตานิคได้ไหม แหม ! ทั้งที่แจ็คกับโรสเพิ่งรู้จักกันได้สองสามวันเอง
เขาทั้งสอง
ก็เป็นพระเอกนางเอกในดวงใจของเราอยู่ ก็ไม่เห็นจะมีใครตำหนิติเตียนอะไร
หนังไทยเอาอย่างมั่ง แม่เบี้ยมาอีกแล้ว แถมเน้นย้ำฉากอิโรติกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
กะเร้าใจท่านผู้ชม
หลายคู่ดูจบ ชวนกันสวมบทพระบทนางให้รู้แล้วรู้รอดไป
การวิจัยในปัจจุบันพบว่า
วัยรุ่นมากกว่าครึ่งยอมรับการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน
ว่าเป็นเรื่องธรรมดา
เป็นข้อมูลที่ผู้ใหญ่ควรรู้ !
จะโทษเด็กทั้งหมดคงไม่ได้
เพราะผู้ใหญ่ก็เป็นต้นเหตุอยู่หลายกรณี
วัฒนธรรมตะวันตกโหมกระหน่ำด้วยสื่อเทคโนโลยีทันสมัยเร้าใจ
อย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่วัฒนธรรมไทยอ่อนกำลังลง
เดี๋ยวนี้คำสอนจากผู้ใหญ่หลายอย่างในเรื่องค่านิยมทางเพศกลาย
เป็นเรื่องล้าสมัย
ถ้าครูมาสอนบอกว่า เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว อดเปรี้ยวไว้กินหวานหรือ
อย่าชิงสุกก่อนห่าม
เด็กบางคนอาจกำลังรู้สึกว่า
" ครูสอนเรื่องอะไร เช้ย
เชย ! "
" นี่ไม่ใช่ชั่วโมงประวัติศาสตร์นะคะ
"
" หนูไม่เป็นอย่างคุณหญิงกีรติหรอกค่ะ
คุณครู "
ส่วนวัฒนธรรมไทยในกรณีค่านิยมทางเพศของผู้ชาย
กลับฝังแน่น
กันมานาน
น่าจะเปลี่ยนกันเสียที
พฤติกรรมทางเพศของคุณผู้ชายก็เลียนแบบมาจากพระเอกวรรณคดีไทย
อย่างขุนช้างขุนแผน กับพระอภัยมณี
ปัจจุบันก็ต้องสร้างค่านิยมใหม่
จะมีเซ็กส์ไปทั่ว
เหมือนแต่ก่อน
มันหมดยุคแล้ว ตอนนี้เป็นยุคเอดส์
มีคำกล่าวว่า " ดูหนังดูละคร แล้วย้อนมาดูตัว "
ดูภาพยนตร์
อ่านวรรณกรรม
แล้วต้องพิจารณาปรับปรุงพฤติกรรมของตนเองเพื่อให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ค่านิยมใดที่ดี
ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ก็ควรดำรงการปฏิบัติไว้ ค่านิยมใหม่ๆ แม้ดูทันสมัย
โก้หรู
แต่หากนำชีวิตไปสู่ทางเสื่อม
ก็มีวิจารณญาณในการปฏิเสธ
ไม่จำเป็นต้องทำตามอย่างไร้สติ
หากคนเราขาดความยับยั้งชั่งใจ
ไม่รู้จักควบคุมความต้องการทางเพศ
ต้องมีกิจกรรมทางเพศทุกครั้งที่มีความต้องการก็ไม่ต่างไปจากสิ่งมีชีวิตที่
สมองส่วนหน้า
ยังไม่พัฒนาเท่ามนุษย์
ดูภาพยนตร์แล้วเร้าอารมณ์ทางเพศให้ตื่นตัว ไม่รู้จักยับยั้ง
ทำอะไรตามใจชอบ
แล้วแต่ตัณหาพาไป อย่างนี้ อาจเกิดกรณี " ดูหนังดูละคร แล้วย้อนมาเสียตัว "
(update 25 กันยายน 2001)
[ ที่มา...บทความเพศศึกษา คอลัมน์ " ติวรักให้เต็มร้อย "
นิตยสารกุลสตรี ฉบับปลายเดือนพฤษภาคม 2544 ] |
|
|