ในการอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่น สิ่งที่เราใช้สื่อสารกันมากอย่างหนึ่ง คือ คำพูดนั่นเอง คำพูดของเราจะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เรามีความก้าวหน้า มีมิตรสหาย มีคนมารัก มาชอบ มาให้การสนับสนุนค้ำจุน ก็เพราะมีคำพูดที่ดี เป็นปิยวาจา คือ วาจาอันเป็นที่รัก พูดอันใดหรือกล่าวถ้อยคำใดก็ล้วนเพราะเสนาะหู เป็นที่หลงไหล น่าเชื่อถือและคล้อยตาม ว่ากันว่าหวานใดก็ไม่เท่าความหวานของคำพูด ดังได้กล่าวไว้ในโลกนิติคำโคลงว่า
"หวานใดในโลกนี้ | มีสามสิ่งนา |
หวานหนึ่งคือรสกาม | อีกอ้อย |
หวานอื่นหมื่นแสนทราม | สารพัด หวานเอย |
หวานไปปานรสถ้อย | กล่าวเกลี้ยงคำหวาน" |
หวานเพียงใดเห็นไหมคะ ธรรมดาคนเรานั้น มักชอบฟังคำพูดไพเราะเสนาะโสตกันทุกคน เวลามีคนมาพูดเพราะ ๆ ด้วยอารมณ์ในขณะนั้น ก็จะดีและมีความสุข เพราะเราได้ฟังสิ่งที่ดีที่ไพเราะเสนาะหู ก็บังเกิดความสบายอกสบายใจ จะพูดจะทำสิ่งใดก็สะดวก คำพูดเพียงประโยคเดียวอาจจะทำให้คนรับฟัง เหมือนลอยอยู่บนฟากฟ้า หรือจมอยู่ใต้พื้นพสุธา การเลือกใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม และถูกกาลเทศะด้วยการมีสติปัญญาไตร่ตรอง กลั่นกรองสิ่งที่จะพูดให้เหมาะสมแล้วจึงพูดออกมา จะทำให้ท่านมีความน่าเชื่อถือและเป็นผู้ที่มีวาจาเป็นอมตะ
ในครอบครัวก็เช่นเดียวกัน ครอบครัวใดที่มีวาจาที่ดี ที่ไพเราะ ให้แก่กันและกันเสมอ พูดกันด้วยความสุภาพให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีกำลังใจให้กันเสมอ มีคำพูดที่ดี ๆ จะมอบให้แก่กัน คนในครอบครัวนั้นจะเป็นคนที่มีสุขภาพจิตดี และเป็นครอบครัวที่มีความสุขและมีความสามัคคีกันอย่างที่สุด
บางท่านอาจจะบอกว่า ก็เป็นคนคุ้นเคยกัน ทั้งนั้นพูดอย่างไรก็ได้ไม่เป็นไร ก็คนในบ้านเราทั้งนั้น ไม่เห็นต้องมีพิธีรีตอง หรือต้องสุภาพอะไร นี่เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง คิดดูซิว่า คนเราจะต้องอยู่กับเขาตลอดเวลานั้นเป็นใคร ไม่ใช่คุณตาข้างบ้าน ที่เราทักทายเขาด้วยความสุภาพ ไม่ใช่คุณป้าหน้าปากซอยที่เรามีไมตรีและมีรอยยิ้มให้เสมอ หรือคนอื่น ๆ แต่เป็นสมาชิกในครอบครัวของเรานี่เอง คนเหล่านี้ซิที่เราจะต้องพูดดี จะต้องทำดีกับเขา จะต้องเห็นอกเห็นใจ จะต้องให้น้ำใจ ให้กำลังใจ มีความเมตตาและพร้อมให้อภัยแก่เขา เพราะเขาจะเป็นคนที่ให้กำลังใจแก่เราได้ตลอดเวลา เขาจะเป็นผู้เกื้อหนุนและค้ำจุนเราในยามที่เราทดท้อหรือผิดหวัง
ดังนั้นภายในบ้านแต่ละบ้าน ควรได้พูดจากันด้วยภาษาดอกไม้ และเป็นถ้อยคำที่ให้ความหวานฉ่ำชื่นใจแก่ผู้รับฟัง โดยการพูดให้ความรู้สึกในทางบวกแก่คนฟัง มีดังนี้
- พูดกันด้วยถ้อยคำที่สุภาพเสมอ อย่าใช้คำพูดห้วน ๆ การพูด
ประชดประชัน กระแหนะกระแหน ใช้คำพูดเสียดสี เยาะเย้ยถากถาง เพื่อให้เกิดความเจ็บช้ำน้ำใจซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดความบาดหมางและความน้อยอกน้อยใจตามมาภายหลัง
- มีคำพูดที่ให้กำลังใจแก่กันและกัน เมื่อสมาชิกในบ้านเกิด
ความท้อแท้หรือหวั่นไหวในการดำเนินชีวิต ในหน้าที่การงาน หรือในการเรียน เช่น "คุณได้ทำหน้าที่ของคุณได้อย่างดีที่สุดแล้ว อย่ากังวลไปอีกเลย" หรือ "พ่อเข้าใจจิตใจลูกที่สุดจ้ะ จงก้าวเดินต่อไป ในทางที่ลูกเห็นว่าถูก ว่าเหมาะ ต่อไปเถิดลูก"
- ให้คำชม พูดชมเชยซึ่งกันและกัน เช่น พูดว่า "วันนี้คุณแต่ตัว
สวย (หล่อ) มาก ใครๆ จะต้องอิจฉาฉันแน่ที่เดินควงกับสาวสวย (หนุ่มหล่อ) คนนี้" หรือ "คุณทำผมทรงนี้ทำให้คุณดูสดใสขึ้นมาก" ฯลฯ
- มีคำพูดหยอกล้อกระเซ้าเย้าแหย่กันบ้าง หัดสร้างอารมณ์ขัน
เพื่อเพิ่มบรรยากาศที่เป็นกันเองและอบอุ่น
- ในครอบครัวควรมีคำว่า "ขอบคุณค่ะ (ครับ)" เมื่อได้รับการ
ช่วยเหลือ ได้รับสิ่งของหรือได้รับคำชมเชย มีคำว่า "ขอโทษค่ะ (ครับ)" เมื่อไปล่วงเกินหรือทำผิดต่อใคร ก็ควรจะได้ขอโทษ ให้ติดปากไว้เป็นเสน่ห์และทำให้คนรักค่ะ"
ลองปฏิบัติดูนะคะ แล้วคุณจะแปลกใจที่ครอบครัวของคุณมี
ความสุข มีความรักและความอบอุ่นเพิ่มมากขึ้น
|