1. ยอมให้มีการทำแท้งอย่างเสรี 2. ไม่ยอมให้ทำแท้งอย่างเด็ดขาด 3. ยอมบ้างไม่ยอมบ้าง
ที่ไอซ์แลนด์เปิดทำแท้งอย่างเสรีและไม่เสี่ยงอันตราย เราทำกันที่โรงพยาบาลโดยหมอผู้เชี่ยวชาญ ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องนี้ก็โทรศัพท์ของเวลาพบหมอได้เลย บอกจุดประสงค์ หมอจะส่งคนไข้ไปพบนักสังคมสงเคราะห์ก่อน พูดคุยให้แน่ใจว่าต้องการทำแท้งแน่ เพราะถ้าจะเก็บไว้รัฐก็มีนโยบายให้ความช่วยเหลืออีกแบบหนึ่ง โอเค ไม่เปลี่ยนใจเพราะยังไม่พร้อม ยังอยากซิ่งอยู่ หมอก็จะจัดการให้โดยเรียบร้อย แล้วส่งสาวเจ้าไปยังเจ้าหน้าที่ให้การอบรม ว่าควรดูแลตัวเองอย่างไรในช่วงนี้และช่วงหน้า ควรมีวิธีป้องกันอย่างไร (ไม่ให้ท้องอีก) เจ้าหน้าที่พวกนี้จะสุภาพเป็นมิตร ไม่มีสิทธิดุด่าว่ากล่าวหรือใช้คำพูดที่ระคายหู คนไข้ไม่พอใจอาจฟ้องร้องได้ การทำแท้งนี้จะทำให้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น (ไม่ทราบว่าครั้งที่ 4 จะเอาไปตอนหรือเปล่าบ่ฮู้) ทำแล้วเสียแพงมั้ยล่ะ คุณพิมบอกว่า ไม่ทราบเพราะไม่เคย แต่ถ้าคลอดลูกล่ะก็ฟรี ตั้งแต่ต้นโปรแกรมยันจบ ไม่ว่าคลอดตามปกติหรือต้องผ่าตัด แม้แต่ในเคสอันตรายต้องย้ายคนไข้ไปยังโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตดีกว่า ไม่ว่าทางรถหรือเครื่องบิน รวมถึงตรวจร่างกายหลังคลอด ถ้าบังเอิญหมอพบว่ามีอะไรไม่ดีแอบแฝงในตัวอีก เช่นเนื้องอกในมดลูก หมอก็จะนัดเจี๋ยนให้ต่อไป ฟรีเหมือนกัน (แฮะ แฮะ เมืองไทยเดี๋ยวนี้ก็เหมือนฟรี จ่ายค่าน้ำจิ้ม 30 บาทเอง แต่ถ้าอยากไฮโซก็ไปที่โรงพยาบาลเอกชน คลอดทีละแสน ได้ตามสบาย) ถ้าเป็นเรื่องเจ็บป่วยตามธรรมชาติ มักจะฟรีหรือเกือบฟรี แต่ถ้าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดเพราะคุณประมาทป้องกันได้ แต่ทะลึ่งไม่ทำ เช่นใช้เครื่องมือที่ต้องสวมหน้ากาก แต่ขี้เกียจใส่ พลาดมาอันนี้คุณจ่ายแพงหน่อยนะคะ เค้าเน้นที่ปลอดภัยไว้ก่อน ขนาดพลุหรือประทัดดอกไม้ไฟ ในกล่องมีแว่นตาพลาสติกมาพร้อม (จะได้เห็นในบ้านเราบ้างไหมเนี่ย) แถมกฎหมายไม่ให้ขายอย่างเสรี มีขายเฉพาะปีใหม่หน่วย rescue หรือหน่วยกู้ภัยของเมืองเป็นผู้ขายเท่านั้น ขายเป็นเวลาอีกต่างหาก มีระเบียบมาก (เรื่องเจ็บเพราะประมาทแล้วไม่รักษาฟรี คนเจ็บในเมืองไทยคงเท่งทึง จนสัปเหร่อทำงานไม่ทันเลยล่ะ คุณพิม)
คดีนี้อัยการเป็นโจทก์ ฟ้อง "นางตาโต" อยากได้เงินแม่มันลูกเดียว ระบุว่า นางตาโตไม่ได้เป็นแพทย์ และไม่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย ได้ทำให้ "ด.ญ.ลุ่มหลง" ผู้เสียหายแท้งลูกโดย ด.ญ.ลุ่มหลงยินยอม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 302 จำเลยคดีทำแท้งแทบทุกรายในบ้านเราเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ไม่ยอมติดตะรางง่ายๆ สาเหตุเพราะมีทุนรอนที่ได้จากการรับทำแท้ง จ้างทนายสู้คดีหรือแม้กระทั่งล้มคดี นางตาโตก็เช่นกัน เจ้าหล่อนจึงให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาลงโทษนางตาโตตามฟ้อง จำคุก 1 ปี นางตาโต ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ให้ทนายยื่นอุทธรณ์ ขอให้ยกฟ้อง แต่จ๋อย ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษายืน หมายถึงให้นางตาโตติดตะรางตามที่ศาลชั้นต้นตัดสินไว้ ไม่ได้พิพากษา ให้นางตาโตยืนลูกเดียวโดยไม่ให้นั่งนอน (แต่ เอ ถ้าตัดสินให้ยืนตลอดมั่งก็ดี โจรผู้ร้ายคงเข็ดแหงๆ) จำเลยคือ นางตาโตหมดทางวิ่งนอกเสียจากจะมีผู้พิพากษาซึ่งทำคดีนี้มาแล้ว และได้รับการร้องขอจากจำเลย เซ็นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ปรากฏว่านางตาโตเก่งไม่หยอก มีผู้พิพากษาศาลชั้นต้นท่านหนึ่งเซ็นให้ จึงได้ลุ้นอีกเฮือกว่าจะคุกไม่คุก ศาลฎีกาเลยต้องออกเหงื่อจากร่างกายที่อาจจะเหี่ยวไปหน่อย เพราะอายุเยอะแล้วเพื่อทำคดีนี้ แล้วชี้ขาดออกมาดังนี้ ที่จำเลยโต้ลูกกลับมาว่า ด.ญ.ลุ่มหลง สมัครใจทำแท้งมีส่วนในการกระทำความผิด จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย อัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น แท้ที่จริงความผิดข้อหาทำแท้งนี้ ไม่ใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว พนักงานสอบสวนดำเนินคดีทำการสอบสวนได้โดยไม่ต้องมีการร้องทุกข์ แม้ด.ญ.ลุ่มหลง หรือแม่ของด.ญ.ลุ่มหลงซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายจะ มาร้องทุกข์หรือไม่ก็ตาม พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนอยู่แล้ว และพนักงานอัยการก็มีอำนาจฟ้อง ข้อแย้งของนางตาโตหัวหมออ้างว่าไม่ได้เป็นคนทำแท้ง หนูถูกใส่ร้าย ศาลฎีกาฟันธงลงมาว่า ด.ญ.ลุ่มหลงให้ถ้อยคำต่อศาล ยืนยันว่าโดนพ่อเลี้ยงข่มขืน (ประจำเลยล่ะประเทศไทย) จนตั้งท้อง พ่อเลี้ยงนั้นแหละพามาทำแท้งกับนางตาโต แม่ของด.ญ.ลุ่มหลงก็ยืนยันตามนี้ พนักงานสอบสวนที่เป็นตำรวจก็ยันว่า ทำแท้งตอนกลางวัน ด.ญ.ลุ่มหลงอยู่ด้วยกับนางตาโตอย่างใกล้ชิดเป็นชั่วโมงๆ เชื่อว่าจดจำนางตาโตได้แม่นยำไม่ผิดตัว อย่างที่นางตาโตมั่วนิ่ม นางตาโตดิ้นไม่หลุด ศาลฎีกาจึงพิพากษายืน ให้นางตาโตไปรับทำแท้งในเรือนจำ 1 ปี ถ้าเรือนจำยอมให้ทำ อันหลังนี้ผมว่าเอง
URL Link : http://www.elib-online.com/doctors45/lady_abortion002.html