| |
|
อนุบาล
สอนเด็ก 2 ขวบอย่างไร |
 |
|
|
|
วันที่ 25 เม.ย. 2553 โดย อ.รุ่งรวี กนกวิบูลย์ศรี |
|
|
|
|
|
|
|
|
อนุบาล
สอนเด็ก 2 ขวบอย่างไร
ดิฉันมีลูกสาว 1 คน ชื่อน้องวิวอายุ 2 ขวบ 1 เดือน อยากเรียนถามว่า 1. โรงเรียนอนุบาลส่วนใหญ่ ถ้าเด็กอายุเท่าน้องวิว จะมีการดูแลอย่างไรบ้างสอนการคิด การอ่าน การเขียนหรือยัง 2. เกณฑ์พิจารณาโรงเรียนอนุบาลอย่างไร จำเป็นหรือเปล่าที่ลูกวัยแค่นี้จะต้องเข้าโรงเรียนอนุบาล 2 ภาษา หรือ 3 ภาษา 3. เข้าโรงเรียนแล้วลูกป่วยบ่อย อยู่บ้านไม่ค่อยเป็นอะไร นอกจากไข้หวัดตามฤดูกาลจะมีวิธีป้องกันและดูแลลูกอย่างไรบ้าง และวิธีช่วยส่งเสริมพฤติกรรมให้ลูกอยากไปโรงเรียนต้องทำอย่างไรค่ะ
1. สถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาลที่เปิดบริการรับเลี้ยงเด็กอายุระหว่าง 1-3 ขวบ ส่วนมากเน้นเรื่องการดูแลเด็กๆ มากกว่าการจัดการเรียนการสอนซึ่งจะมีหลักในการปฏิบัติต่อเด็กๆ เหมือนกัน คือ การอบรมเลี้ยงดู การจัดการกิจกรรมต่างๆ ให้เด็กได้ฝึกฝนและเตรียมความพร้อมตามวัย ให้จุดมุ่งหมายของการดูแล จะเน้นการฝึกช่วยเหลือตนเอง เช่น การใช้ช้อนตักอาหารรับประทานได้ รู้จักทำความสะอาด ล้างหน้าล้างมือ เมื่อต้องการจะขับถ่ายสามารถบอกผู้อื่นได้ เล่นกับเพื่อนในกลุ่มเล็กๆ ได้ สามารถปรับตัวในการแยกจากผู้ใหญ่ได้ พูดคุยสื่อสารกับผู้อื่นได้เข้าใจ เด็กๆ จะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว ด้วยการมอง การฟัง การดมกลิ่น และการสัมผัสค่ะ กิจกรรมต่างๆ ที่จัดให้เด็กอาจมีความหลากหลาย เพราะเด็กวันนี้ต้องการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อแขน ขา กิจกรรมที่จะส่งเสริมการเคลื่อนไหวได้แก่ การให้วิ่งเล่นอิสระ เล่นอุปกรณ์ของเล่น เล่นเครื่องเล่นสนาม ปีน ไต่ ที่เหมาะสมตามวัยเด็ก กิจกรรมการเล่นบล็อกไม้พลาสติกสร้างสรรค์ หม้อข้าวหม้อแกง ตุ๊กตาผ้า ฯลฯ การที่เด็กได้เล่นรวมกลุ่มจะช่วยฝึกให้รู้จักการแบ่งปัน รอคอย ขณะที่เล่นได้พูดคุยกับผู้อื่น เป็นการฝึกภาษาพูด เด็กเรียนรู้คุณธรรมจากนิทานที่ครูเล่าให้ฟัง และจากการเห็นเกิดการเลียนแบบเพื่อนหรือครู จากกิจกรรมต่างๆ ที่ครูหมูยกตัวอย่างมา การอ่าน การเขียนของเด็กจะแฝงอยู่ในกิจกรรมเหล่านั้นค่ะ
2. เกณฑ์การพิจารณาโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็กในวัยนี้ ไม่จำเป็นที่ลูกต้องเรียนโรงเรียน 2 ภาษา หรือ 3 ภาษา แต่คุณแม่ควรพิจารณาเพียงภาษาเดียวที่ลูกใช้ในชีวิตประจำวันเป็นหลักค่ะ ความหมายของบางคำลูกอาจไม่เข้าใจ เพราะเด็กเพิ่งจะพัฒนาการพูดจากคำๆ เป็นประโยคสั้นๆ สื่อความหมายกับผู้อื่นได้เข้าใจ ลูกต้องใช้การฝึกประสบการณ์จากการมีประสบการณ์ จากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นรอบข้าง พัฒนาการพูดจากคำๆ เป็นประโยคสั้นๆ สื่อความหมายกับผู้อื่นได้เข้าใจ ลูกต้องใช้การฝึกประสบการณ์จากการมีประสบการณ์ จากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นรอบข้าง พัฒนาภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้แข็งแรง เพราะ การเรียนรู้ภาษาหลายภาษาในวัยนี้อาจจะสร้างความสับสนและเป็นปัญหาในการใช้ภาษาของลูกได้ค่ะ การเลือกโรงเรียนให้ลูกควรพิจารณาเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด บุคลากรที่เป็นผู้อบรมเลี้ยงดูเด็ก คุณครูมีปฏิสัมพันธ์ทีดีกับเด็กด้วยวาจาและท่าทีอบอุ่น เป็นมิตรสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ จัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับธรรมชาติ ความต้องการและพัฒนาการตามวัยของเด็ก ทั้งหมดนี้จะมีส่วนช่วยในการเรียนรู้และเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กในการเรียนต่อไปค่ะ ถ้าเราต้องการให้ลูกเข้าโรงเรียน คุณแม่ควรเตรียมความพร้อมให้แก่ลูก ทั้งเรื่องของการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ บุคคลแปลกหน้า การร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียน ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น การปรับเวลาตื่นนอน การฝึกให้ช่วยเหลือตนเอง การรับประทานอาหารด้วยตัวเอง ดื่มนมจากแก้ว การนอนหลับพักผ่อนตามเวลาที่กำหนด
3. ในส่วนการเจ็บป่วย เด็กวัยนี้ยังไม่รู้จักการหลีกเลี่ยงจากเพื่อนที่ป่วยเท่าใดนักคุณพ่อคุณแม่สามารถบอกลูกได้ว่า ถ้าเพื่อนไอหรือจามให้ออกห่าง ไม่ใช้แก้วร่วมกับผู้อื่น และสิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ ถ้าลูกของเราเจ็บป่วยก็ให้ลูกพักผ่อนที่บ้านให้หายดีจึงค่อยไปโรงเรียน ลูกแข็งแรง ปรับตัวได้ และมีผู้ใหญ่ช่วยสนับสนุนให้เด็กรัก และอยากไปโรงเรียนด้วยการเล่านิทานเกี่ยวกับโรงเรียน พูดคุยถึงกิจกรรมต่างๆ และสิ่งดีๆ ที่ลูกรู้จักทั้งที่โรงเรียนและที่บ้านก็จะทำให้ลูกมีความสุขในการไปโรงเรียน อ.รุ่งรวี กนกวิบูลย์ศรี
(update 12 กันยายน 2008)
[ ที่มา.. นิตยสารรักลูก ที่ 26 ฉบับที่ 303 เมษายน 2551] |
|
|
|
|
|
|
|
|
[ ที่มา...http://www.elib-online.com/childclinic/childclinic51/child_clinic51078.html ]
|
|
|
URL
Link :
http://www.elib-online.com/childclinic/childclinic51/child_clinic51078.html |
|
|
|
|
|
 |
|
| |
|
|
| |
|
|
