|
สอน ลูกเรื่องเซ็กส์
สอนเด็กเรื่องรัก |
|
|
|
|
วันที่ 20 เม.ย. 2553 โดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล |
|
|
|
|
|
|
|
|
หลังจากตระเวนเป็นวิทยากรรับเชิญตามโรงเรียนและสถาบันต่างๆ
ให้บรรยายในหัวข้อ
"เรื่องรัก เรื่องใคร่
ในวัยรุ่น" มากว่าร้อยรอบในช่วง 2 3
ปีที่ผ่านมา
คำถามที่ได้รับมากที่สุดจากบรรดาผู้ปกครองและครูคือ จะสอน
เรื่องเพศศึกษา
ให้เด็กหนุ่มเด็กสาวอย่างไรดี
อยากสอนลูกแต่พูดไม่เป็น
ตั้งแต่เกิดมาจนเป็นพ่อเป็นแม่ก็
"สำเร็จความรู้ด้วยตนเอง" มาโดยตลอด ไม่เห็นต้องมีใครมาสอนเลย
ลองผิดลองถูกจนรู้ขึ้นมาก
และที่ยังไม่รู้ก็มีอีกเยอะ
แต่ก่อนผู้ใหญ่ก็กลัวกันเหลือเกินว่า
ถ้าสอนเรื่องเพศให้เด็กรู้แล้ว เดี๋ยวเด็กๆ จะไปทดลองภาคปฏิบัติกัน
เข้าทำนองชี้โพรงให้กระรอก
เดี๋ยวนี้ปรากฏว่ากระรอกเห็นโพรงเรียบร้อย
แล้ว
แต่ไม่รู้วิธีเข้าที่ถูกต้อง เข้าผิดเข้าถูก บาดเจ็บล้มตายกันเยอะแยะ
การศึกษาไม่ใช่แค่เรียนเก่ง สอบได้คะแนนดี
แต่ต้องทำให้เด็กเกิดวุฒิภาวะและมีวิจารณญาณ
ตัดสินใจได้ว่า "โพรง"
ที่เห็นอยู่ต่อหน้าจะเข้าไปดีหรือไม่
จะใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกอย่างอยู่เย็น
เป็นสุข
หรืออยากเข้าไปผจญภัยใน "โพรง"
ก็ต้องรู้จักเอาตัวรอดจากขวากหนามและกับดักที่ซ่อนเร้น
วัยรุ่นทำแท้งปีหนึ่งถึง 2 3 แสนคน
นี่นับที่ทำแท้งนะครับ
ที่ท้องไม่ตั้งใจ
แล้วตัดสินใจไม่ทำแท้งอีกตั้งเท่าไหร่
แล้วที่ทำแล้วไม่ท้องอีกกี่เท่าตัว
แสดงว่า
มีการลงมือในภาคปฏิบัติหลายล้านครั้ง
เพศศึกษา
ไม่ใช่การสอนวิธีการร่วมเพศ
และก็ไม่ใช่เพียงแค่การสอนว่าร่วมเพศยังไงไม่ให้ท้อง
คำว่า "เพศ" มิได้หมายความเพียงแค่ "การเอาอะไร
ใส่เข้าไปในอะไร"
ถ้าอย่างงั้น ต้องสอนอะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องเพศ
ยกตัวอย่าง
เรื่องเพศที่เด็กวัยรุ่นควรต้องรู้ มีทั้งการเปลี่ยนแปลง
สรีระร่างกาย ทั้งรูปร่างภายนอก
และปรากฏการณ์ภายใน ตากระทบสื่อเร้า ผิวหนังได้รับการกระตุ้น
ผลพวงคือการตื่นตัวทางเพศ
เป็นภาวะตึงเครียดทางระบบประสาทที่ถูกรุกเร้าจนเร่าร้อน
"ไฟราคะร่านร้อนพันทวี
จนฤดีเดือดดิ้นแดดาล"
เร่งเร้าให้เกิดการปฏิบัติกิจกรรม
เพื่อนำไปสู่
ภาวะผ่อนคลาย
ความต้องการทางเพศหรือความกำหนัด
เป็นความแปลกใหม่ที่วัยรุ่นต้องสังเกต
เพื่อรู้จักควบคุมหรือมีกิจกรรมที่เหมาะสม (ด้วยตัวเอง) เช่น ออกกำลังกาย
เล่นกีฬา
สนใจศิลปะและดนตรี
วัยรุ่นที่มีงานอดิเรกหรือกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น
การหมกมุ่นในกิจกรรมทางเพศจะลดลง เพราะมีการแปรรูปพลังงานทางเพศ
ไปสู่กิจกรรมที่สร้างสรรค์ (Transmutation of Sexual Energy)
และหากตัดสินใจมีความสัมพันธ์ทางเพศ
ก็ต้องรู้ว่า
ทำอย่างไรถึงปลอดภัย ภาษาอังกฤษเรียก
Safe Sex ซึ่งแปลว่า กิจกรรมทางเพศที่ปลอดภัย
บางคนไม่เข้าใจ คิดว่าเซ็กส์
แบบประหยัด !
ความสนใจเพศตรงข้ามเป็นสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดมาเพื่อนำ
ไปสู่การใช้ชีวิตคู่
การคบเพื่อนต่างเพศ การนัดหมาย การปฏิเสธหรือต่อรอง
เป็นทักษะทางสังคม
เพื่อการแสดงอย่างเหมาะสม ไม่เก็บกดให้หนักอกหนักใจ และถ้าปฏิเสธไม่เป็น
...ความเดือดร้อนก็บังเกิดขึ้นกับชีวิต
และอีกหลายเรื่องราวที่ควรเรียนรู้
ถ้าอยากสอนลูกเรื่องเพศ
มีวิธีอย่างไร
1.
เปลี่ยนความคิดตัวเองก่อน -
ไม่ใช่คิดจะสอน แต่ต้องมาเรียนรู้ด้วยกัน
ผมเองเรียนรู้เรื่องเพศ
โดยเฉพาะพฤติกรรมทางเพศและการคบเพื่อนต่างเพศจากลูกสาววัยรุ่น
เพราะหลายอย่างไม่เคยเรียนมา
แต่ตำรายุคนี้เขามีพูดกัน
เรียนเรื่องอะไรมาบ้าง เล่าให้พ่อแม่ฟังหน่อย
อยากรู้
วัยรุ่นยุคนี้มีวิธีการเลือกแฟนอย่างไร
ผมก็รู้จากลูกนี่แหละ
ถามว่าเพื่อนๆ
ในห้องในโรงเรียนเขามีแฟนกันหรือยัง
เยอะไหม
แล้วค่อยตะล่อมถามถึงลูกตัวเองบ้าง
หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นโป๊ๆ เยอะแยะ
คุณพ่อขอดูบ้าง
ถึงรู้ว่าอย่าสนใจแค่อินเทอร์เน็ต
การ์ตูนญี่ปุ่นนี่ก็ตัวดี
2.
เป็นเพื่อนกับลูก ถ้าเป็นเพื่อนกัน
ก็คุยกันได้
เคยมีการวิจัยพบว่า เด็กวัยรุ่นคุยเรื่องเพศกับเพื่อนมากที่สุด
ถึงผู้ใหญ่เองก็เถอะ
เวลามีความทุกข์ใจหนักใจเรื่องเซ็กส์กับคู่สมรส ก็ปรึกษาเพื่อนก่อน
น้อยรายที่มาพบจิตแพทย์เป็นอันดับแรก
เซ็กส์เป็นประเด็นที่ sensitive แปลว่าเรื่องอ่อนไหว
คุยแล้วอายบ้าง อึดอัดบ้าง
ถ้าไม่ไว้ใจ
ไม่สนิทใจกันจริงๆ ไม่เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังหรอก
เพราะฉะนั้นถ้าพ่อแม่วางตัวเป็นผู้มีอำนาจ
ไม่รับฟังความคิดเห็น ลูกทำอะไรนิดอะไรหน่อย
ก็ตำหนิว่าไปหมด
อย่าได้หวังเลยว่าลูกจะมาขอคำปรึกษาเรื่องเพศ
เขาประเมินแล้วว่า
โอกาสถูกด่ามีมากกว่าได้คำตอบ
3.
มีสื่อเป็นตัวจุดชนวน
เปิดประเด็นนำไปสู่การพูดคุยกัน
ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เช่น
พ่อแม่ลูกล้อมวงกินข้าวมื้อเย็น
อยู่ๆพ่อก็บอกลูกชายย่างวัยหนุ่มว่า "เออ
เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว
พ่อจะขอพูดคุยเรื่อง
การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองให้ฟัง"
เด็กชายจะงุนงงและเห็นพ่อเป็นตัว
ประหลาด
ต้องใช้สื่อต่างๆที่มีอยู่ดาษดื่นเป็นตัวจุดชนวนในการเปิด
ประเด็นพูดคุยกัน เช่น
อ่านหนังสือพิมพ์เจอข่าวเรื่องภัยทางเพศ ก็แสดงความรู้สึกเป็นห่วง
"สังคมเดี๋ยวนี้อันตรายมาก
จะทำยังไงที่เรื่องนี้จะไม่เกิดกับลูกสาวที่น่ารักของคุณแม่"
หรือดูหนัง ดูละครมีฉากเลิฟซีน เช่น พระเอกจูบปากนางเอก
พ่อก็อาจแสดงความคิดเห็นได้ว่า
"สมัยก่อนคนไทยเคี้ยวหมากและกินอาหารรสจัด มีกลิ่นปาก
เลยไม่นิยมจูบปากแต่ใช้หอมแก้มกัน
ฝรั่งใช้การจูบแสดงความรักของหนุ่มสาว แต่ถ้ามาทำในเมืองไทย
คนไทยก็มองด้วยสายตาตำหนิ
เพราะวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้าจูบในวัดวาอารามก็เป็นเรื่องผิดกาลเทศะ"
แต่ถ้าเกิดเป็นฉากพระเอกดันไปจูบปากกับผู้ร้าย
คงต้องอธิบายมากหน่อย
"ส่วนใหญ่คนเราจะรักชอบเพศตรงข้าม ผู้ชายรักผู้หญิง ผู้หญิงรักผู้ชาย
แต่คนส่วนน้อยเขารักเพศเดียวกัน ผู้ชายรักผู้ชายเรียกว่าเกย์
ผู้หญิงรักผู้หญิงเรียกว่าเลสเบี้ยน
เป็นความแตกต่างที่เกิดเป็นส่วนน้อย เหมือนคนส่วนใหญ่ถนัดมือขวา
แต่มีบางคนถนัดมือซ้าย"
พูดสั้นๆ ไม่ต้องยาว เพราะไม่ใช่เล็กเชอร์
4.
สื่อสารสองทาง พูดคุยไม่ใช่พร่ำสอน
ครั้งหนึ่งผมดูทีวีกับลูกสาววัยรุ่น
ดูข่าวหาเสียงก่อนเลือกตั้ง
จู่ๆลูกสาวก็โพล่งขึ้นมาว่า
"พ่อๆ เนี่ย
นักการเมืองคนนี้แหละ ผู้ชายในสเป็คเลย"
ในบรรยากาศของความเป็นเพื่อน คุณพ่อถามลูกสาว
"ผู้ชายในสเป็คของลูกน่ะ
หมายถึงอะไร
ลูกหมายถึงหน้าตาหล่อ หรือว่าบุคลิกภาพหรือว่าความฉลาด"
.
"ถ้าอีกหน่อยมีผู้ชายหน้าตาหล่อแต่นิสัยไม่ดี
กับผู้ชายนิสัยดีแต่ไม่หล่อมาชอบลูก จะเลือกใครดี"
คำถามนำไปสู่คำตอบ แล้วพ่อลูกก็เข้าใจกัน
สมมติผมพูดกลับว่า "มีหน้าที่เรียนก็เรียนไป ยังไม่ต้องแรด
!"
อย่างนี้ลูกสาวอยากคุยต่อไหมครับ
รับรองได้เลยว่า
คุณพ่อจะกลายเป็นนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับหนุ่มหล่อแห่งพรรคประชาธิปัตย์ใน
ทันที
โชคดีว่าเขาเองก็เป็นผู้ชายในสเป็คของคุณพ่อเหมือนกัน
นี่ถ้า
เป็น "
"
ผมอาจฆ่าตัวตายไปแล้วก็ได้
โทษฐานเลี้ยงดูให้เป็นเด็กสิ้นคิด
(คำในช่องว่างเติมชื่อกันเอาเอง
คนดังๆที่คุณเกลียดที่สุด)
5.
ถ้าพูดไม่เป็น
ก็ซื้อหนังสือดีๆให้ลูกอ่าน
เดี๋ยวนี้หนังสือเพศศึกษาส่วนใหญ่เป็นฉบับพ่อแม่ เช่น
บรรยายถึงเทคนิคการเล้าโลม
และท่าทางร่วมเพศให้ถึงพริกถึงขิง
ซึ่งไม่เหมาะกับวัยเด็ก
ครั้งหนึ่งผมไปหาซื้อหนังสือที่ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยแห่ง
หนึ่ง ลูกสาวไปด้วย
เขาก็ไปเลือกดูหนังสือที่เขาสนใจ
สักครู่ก็เดินมาพร้อมหนังสือสีชมพูเล่มหนึ่ง "คู่มือวัยรุ่น"
พิมพ์โดยมูลนิธิผู้หญิง
ผมเปิดดูแล้ว บอกลูกสาวเลยครับว่า
นี่เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับลูกสาวมาก
ผมเห็นว่าเป็นหนังสือเพศศึกษาสำหรับวัยรุ่นผู้หญิงที่ดีที่สุดในประเทศไทย
หรืออ่านหนังสือ "ติวรักให้เต็มร้อย"
เล่มนี้ก็ได้
เพราะเป็นหนังสือที่พูดเรื่องความรัก
ความใคร่ในวัยสาวที่ดีที่สุด
แห่งสยามประเทศ
(update 8 มิถุนายน 2001)
[ ที่มา..ลงพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์
"ติวรักให้เต็มร้อย"
นิตยสารกุลสตรี รายปักษ์ ฉบับกลางเดือนธันวาคม 2544 ] |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
[ ที่มา...http://www.elib-online.com/doctors45/teen_sex001.html ]
|
|
|
URL
Link :
http://www.elib-online.com/doctors45/teen_sex001.html |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|