บทความเกี่ยวกับ วัยรุ่น
คนเป็นคนที่ - 2997 [Date : 20 เม.ย. 2553 ]   
 
สอน ลูกเรื่องเซ็กส์…สอนเด็กเรื่องรัก
 
วันที่ 20 เม.ย. 2553   โดย นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล
 
 

สอนลูกเรื่องเซ็กส์…สอนเด็กเรื่องรัก


หลังจากตระเวนเป็นวิทยากรรับเชิญตามโรงเรียนและสถาบันต่างๆ ให้บรรยายในหัวข้อ "เรื่องรัก – เรื่องใคร่…ในวัยรุ่น" มากว่าร้อยรอบในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา

คำถามที่ได้รับมากที่สุดจากบรรดาผู้ปกครองและครูคือ จะสอน เรื่องเพศศึกษา ให้เด็กหนุ่มเด็กสาวอย่างไรดี…อยากสอนลูกแต่พูดไม่เป็น ตั้งแต่เกิดมาจนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ "สำเร็จความรู้ด้วยตนเอง" มาโดยตลอด ไม่เห็นต้องมีใครมาสอนเลย ลองผิดลองถูกจนรู้ขึ้นมาก… และที่ยังไม่รู้ก็มีอีกเยอะ

แต่ก่อนผู้ใหญ่ก็กลัวกันเหลือเกินว่า ถ้าสอนเรื่องเพศให้เด็กรู้แล้ว เดี๋ยวเด็กๆ จะไปทดลองภาคปฏิบัติกัน เข้าทำนองชี้โพรงให้กระรอก…เดี๋ยวนี้ปรากฏว่ากระรอกเห็นโพรงเรียบร้อย แล้ว แต่ไม่รู้วิธีเข้าที่ถูกต้อง เข้าผิดเข้าถูก บาดเจ็บล้มตายกันเยอะแยะ…

การศึกษาไม่ใช่แค่เรียนเก่ง สอบได้คะแนนดี แต่ต้องทำให้เด็กเกิดวุฒิภาวะและมีวิจารณญาณ ตัดสินใจได้ว่า "โพรง" ที่เห็นอยู่ต่อหน้าจะเข้าไปดีหรือไม่…จะใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกอย่างอยู่เย็น เป็นสุข หรืออยากเข้าไปผจญภัยใน "โพรง" ก็ต้องรู้จักเอาตัวรอดจากขวากหนามและกับดักที่ซ่อนเร้น

วัยรุ่นทำแท้งปีหนึ่งถึง 2 – 3 แสนคน…นี่นับที่ทำแท้งนะครับ ที่ท้องไม่ตั้งใจ แล้วตัดสินใจไม่ทำแท้งอีกตั้งเท่าไหร่ แล้วที่ทำแล้วไม่ท้องอีกกี่เท่าตัว…แสดงว่า มีการลงมือในภาคปฏิบัติหลายล้านครั้ง

เพศศึกษา…ไม่ใช่การสอนวิธีการร่วมเพศ และก็ไม่ใช่เพียงแค่การสอนว่าร่วมเพศยังไงไม่ให้ท้อง

คำว่า "เพศ" มิได้หมายความเพียงแค่ "การเอาอะไร ใส่เข้าไปในอะไร" …ถ้าอย่างงั้น ต้องสอนอะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องเพศ…ยกตัวอย่าง…

เรื่องเพศที่เด็กวัยรุ่นควรต้องรู้ มีทั้งการเปลี่ยนแปลง สรีระร่างกาย ทั้งรูปร่างภายนอก และปรากฏการณ์ภายใน ตากระทบสื่อเร้า ผิวหนังได้รับการกระตุ้น ผลพวงคือการตื่นตัวทางเพศ เป็นภาวะตึงเครียดทางระบบประสาทที่ถูกรุกเร้าจนเร่าร้อน… "ไฟราคะร่านร้อนพันทวี จนฤดีเดือดดิ้นแดดาล" …เร่งเร้าให้เกิดการปฏิบัติกิจกรรม…เพื่อนำไปสู่ ภาวะผ่อนคลาย

ความต้องการทางเพศหรือความกำหนัด เป็นความแปลกใหม่ที่วัยรุ่นต้องสังเกต เพื่อรู้จักควบคุมหรือมีกิจกรรมที่เหมาะสม (ด้วยตัวเอง) เช่น ออกกำลังกาย เล่นกีฬา สนใจศิลปะและดนตรี…วัยรุ่นที่มีงานอดิเรกหรือกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น การหมกมุ่นในกิจกรรมทางเพศจะลดลง เพราะมีการแปรรูปพลังงานทางเพศ ไปสู่กิจกรรมที่สร้างสรรค์ (Transmutation of Sexual Energy)

และหากตัดสินใจมีความสัมพันธ์ทางเพศ ก็ต้องรู้ว่า…ทำอย่างไรถึงปลอดภัย ภาษาอังกฤษเรียก Safe Sex ซึ่งแปลว่า กิจกรรมทางเพศที่ปลอดภัย…บางคนไม่เข้าใจ คิดว่าเซ็กส์ แบบประหยัด !

ความสนใจเพศตรงข้ามเป็นสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดมาเพื่อนำ ไปสู่การใช้ชีวิตคู่… การคบเพื่อนต่างเพศ การนัดหมาย การปฏิเสธหรือต่อรอง…เป็นทักษะทางสังคม เพื่อการแสดงอย่างเหมาะสม ไม่เก็บกดให้หนักอกหนักใจ และถ้าปฏิเสธไม่เป็น ...ความเดือดร้อนก็บังเกิดขึ้นกับชีวิต…และอีกหลายเรื่องราวที่ควรเรียนรู้…

ถ้าอยากสอนลูกเรื่องเพศ…มีวิธีอย่างไร…

1. เปลี่ยนความคิดตัวเองก่อน - ไม่ใช่คิดจะสอน แต่ต้องมาเรียนรู้ด้วยกัน
ผมเองเรียนรู้เรื่องเพศ โดยเฉพาะพฤติกรรมทางเพศและการคบเพื่อนต่างเพศจากลูกสาววัยรุ่น เพราะหลายอย่างไม่เคยเรียนมา แต่ตำรายุคนี้เขามีพูดกัน…เรียนเรื่องอะไรมาบ้าง เล่าให้พ่อแม่ฟังหน่อย อยากรู้

วัยรุ่นยุคนี้มีวิธีการเลือกแฟนอย่างไร…ผมก็รู้จากลูกนี่แหละ ถามว่าเพื่อนๆ ในห้องในโรงเรียนเขามีแฟนกันหรือยัง เยอะไหม…แล้วค่อยตะล่อมถามถึงลูกตัวเองบ้าง
หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นโป๊ๆ เยอะแยะ…คุณพ่อขอดูบ้าง ถึงรู้ว่าอย่าสนใจแค่อินเทอร์เน็ต…การ์ตูนญี่ปุ่นนี่ก็ตัวดี
2. เป็นเพื่อนกับลูก – ถ้าเป็นเพื่อนกัน ก็คุยกันได้
เคยมีการวิจัยพบว่า เด็กวัยรุ่นคุยเรื่องเพศกับเพื่อนมากที่สุด ถึงผู้ใหญ่เองก็เถอะ เวลามีความทุกข์ใจหนักใจเรื่องเซ็กส์กับคู่สมรส ก็ปรึกษาเพื่อนก่อน น้อยรายที่มาพบจิตแพทย์เป็นอันดับแรก
เซ็กส์เป็นประเด็นที่ sensitive แปลว่าเรื่องอ่อนไหว คุยแล้วอายบ้าง อึดอัดบ้าง…ถ้าไม่ไว้ใจ ไม่สนิทใจกันจริงๆ ไม่เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังหรอก

เพราะฉะนั้นถ้าพ่อแม่วางตัวเป็นผู้มีอำนาจ ไม่รับฟังความคิดเห็น ลูกทำอะไรนิดอะไรหน่อย ก็ตำหนิว่าไปหมด…อย่าได้หวังเลยว่าลูกจะมาขอคำปรึกษาเรื่องเพศ เขาประเมินแล้วว่า โอกาสถูกด่ามีมากกว่าได้คำตอบ
3. มีสื่อเป็นตัวจุดชนวน – เปิดประเด็นนำไปสู่การพูดคุยกัน
ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เช่น พ่อแม่ลูกล้อมวงกินข้าวมื้อเย็น อยู่ๆพ่อก็บอกลูกชายย่างวัยหนุ่มว่า "เออ…เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว พ่อจะขอพูดคุยเรื่อง การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองให้ฟัง" …เด็กชายจะงุนงงและเห็นพ่อเป็นตัว ประหลาด

ต้องใช้สื่อต่างๆที่มีอยู่ดาษดื่นเป็นตัวจุดชนวนในการเปิด ประเด็นพูดคุยกัน เช่น อ่านหนังสือพิมพ์เจอข่าวเรื่องภัยทางเพศ ก็แสดงความรู้สึกเป็นห่วง "สังคมเดี๋ยวนี้อันตรายมาก จะทำยังไงที่เรื่องนี้จะไม่เกิดกับลูกสาวที่น่ารักของคุณแม่"

หรือดูหนัง ดูละครมีฉากเลิฟซีน เช่น พระเอกจูบปากนางเอก พ่อก็อาจแสดงความคิดเห็นได้ว่า "สมัยก่อนคนไทยเคี้ยวหมากและกินอาหารรสจัด มีกลิ่นปาก เลยไม่นิยมจูบปากแต่ใช้หอมแก้มกัน ฝรั่งใช้การจูบแสดงความรักของหนุ่มสาว แต่ถ้ามาทำในเมืองไทย คนไทยก็มองด้วยสายตาตำหนิ เพราะวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้าจูบในวัดวาอารามก็เป็นเรื่องผิดกาลเทศะ"

แต่ถ้าเกิดเป็นฉากพระเอกดันไปจูบปากกับผู้ร้าย คงต้องอธิบายมากหน่อย "ส่วนใหญ่คนเราจะรักชอบเพศตรงข้าม ผู้ชายรักผู้หญิง ผู้หญิงรักผู้ชาย แต่คนส่วนน้อยเขารักเพศเดียวกัน ผู้ชายรักผู้ชายเรียกว่าเกย์ ผู้หญิงรักผู้หญิงเรียกว่าเลสเบี้ยน… เป็นความแตกต่างที่เกิดเป็นส่วนน้อย เหมือนคนส่วนใหญ่ถนัดมือขวา แต่มีบางคนถนัดมือซ้าย" …พูดสั้นๆ ไม่ต้องยาว เพราะไม่ใช่เล็กเชอร์
4. สื่อสารสองทาง – พูดคุยไม่ใช่พร่ำสอน
ครั้งหนึ่งผมดูทีวีกับลูกสาววัยรุ่น ดูข่าวหาเสียงก่อนเลือกตั้ง…จู่ๆลูกสาวก็โพล่งขึ้นมาว่า "พ่อๆ เนี่ย…นักการเมืองคนนี้แหละ ผู้ชายในสเป็คเลย"
ในบรรยากาศของความเป็นเพื่อน คุณพ่อถามลูกสาว "ผู้ชายในสเป็คของลูกน่ะ หมายถึงอะไร…ลูกหมายถึงหน้าตาหล่อ หรือว่าบุคลิกภาพหรือว่าความฉลาด"…. "ถ้าอีกหน่อยมีผู้ชายหน้าตาหล่อแต่นิสัยไม่ดี กับผู้ชายนิสัยดีแต่ไม่หล่อมาชอบลูก จะเลือกใครดี" …คำถามนำไปสู่คำตอบ แล้วพ่อลูกก็เข้าใจกัน

สมมติผมพูดกลับว่า "มีหน้าที่เรียนก็เรียนไป ยังไม่ต้องแรด !"…อย่างนี้ลูกสาวอยากคุยต่อไหมครับ รับรองได้เลยว่า คุณพ่อจะกลายเป็นนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับหนุ่มหล่อแห่งพรรคประชาธิปัตย์ใน ทันที

โชคดีว่าเขาเองก็เป็นผู้ชายในสเป็คของคุณพ่อเหมือนกัน…นี่ถ้า เป็น "………………" ผมอาจฆ่าตัวตายไปแล้วก็ได้ โทษฐานเลี้ยงดูให้เป็นเด็กสิ้นคิด…(คำในช่องว่างเติมชื่อกันเอาเอง คนดังๆที่คุณเกลียดที่สุด)
5. ถ้าพูดไม่เป็น – ก็ซื้อหนังสือดีๆให้ลูกอ่าน
เดี๋ยวนี้หนังสือเพศศึกษาส่วนใหญ่เป็นฉบับพ่อแม่ เช่น บรรยายถึงเทคนิคการเล้าโลม และท่าทางร่วมเพศให้ถึงพริกถึงขิง…ซึ่งไม่เหมาะกับวัยเด็ก

ครั้งหนึ่งผมไปหาซื้อหนังสือที่ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยแห่ง หนึ่ง ลูกสาวไปด้วย เขาก็ไปเลือกดูหนังสือที่เขาสนใจ สักครู่ก็เดินมาพร้อมหนังสือสีชมพูเล่มหนึ่ง "คู่มือวัยรุ่น" พิมพ์โดยมูลนิธิผู้หญิง…ผมเปิดดูแล้ว บอกลูกสาวเลยครับว่า นี่เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับลูกสาวมาก… ผมเห็นว่าเป็นหนังสือเพศศึกษาสำหรับวัยรุ่นผู้หญิงที่ดีที่สุดในประเทศไทย
หรืออ่านหนังสือ "ติวรักให้เต็มร้อย" เล่มนี้ก็ได้…เพราะเป็นหนังสือที่พูดเรื่องความรัก ความใคร่ในวัยสาวที่ดีที่สุด…แห่งสยามประเทศ


(update 8 มิถุนายน 2001)
[ ที่มา..ลงพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์ "ติวรักให้เต็มร้อย"
นิตยสารกุลสตรี รายปักษ์ ฉบับกลางเดือนธันวาคม 2544 ]
 
 

[ ที่มา...http://www.elib-online.com/doctors45/teen_sex001.html ]

URL Link : http://www.elib-online.com/doctors45/teen_sex001.html

 

     
   


[Home] [โรคเด็ก] [เสพสมให้สมอารมณ์หมาย] [คู่มือเลี้ยงลูก] [คลินิกเด็ก] [ผู้สูงวัย] [ครอบครัว] [คุมกำเนิด] [วัยรุ่น] [เบี่ยงเบน] [กฏหมาย] [สุขภาพจิต] [ผู้หญิง ผู้หญิง] [กามโรค]