|
รัก ให้เป็น |
|
|
|
|
วันที่ 19 เม.ย. 2553 โดย น.พ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
ห้ามไม่ได้ ถ้าจะรักกัน
ธรรมชาติของหนุ่มสาวนั้น เข้าใกล้ชิดกันเพราะความโหยหาเป็นทุนอยู่แล้ว
ความโหยหานี้เกิดขึ้นตามพัฒนาการของจิตใจ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา
รักให้เป็น วันนี้หมายถึงนักเรียนนักศึกษาที่รักกันก็ขอให้รัก
ให้เป็น
คุณพ่อคุณแม่ที่เผชิญปัญหาลูกวัยรุ่นมีคนรักเสียแล้วก็ขอให้รักลูกให้เป็น
จะรักให้เป็นก็ต้องรู้ธรรมชาติของความรัก
หมายถึงรู้จริงมิใช่สักแต่ว่ารู้
ที่ว่าที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์นั้นขอให้รู้ไว้เถิดว่าจริงแน่
จะได้เตรียมใจรอรับความทุกข์ตั้งแต่ต้นมือ
คนเราหากเตรียมใจอะไรไว้ก่อนแล้วยามเกิดเหตุก็มักมีสติและไม่ตีโพยตีพายจน
เกินเหตุ
หากจะรักกันแล้ว ใครก็คงห้ามไม่ได้
ถึงได้มีคำเรียกหาว่าตกหลุมรักและไฟรักสุมทรวง
ใครไม่เคยตกหลุมรักจะไม่รู้หรอกว่า ทุรนทุรายเพียงใด
ยามมิได้เห็นหน้ามันจะตายเอา
ยามเห็นหน้าก็วางท่าวางตัว (อย่าว่าดูหมิ่นวัยรุ่นเลยนะครับ
สมัยนี้ยังวางท่าวางตัวกันอยู่หรือเปล่าหว่า) กว่าจะรัก
เข้าใจในรักได้ก็ เฮ้อ! เกือบตาย
ก่อนอื่น คุณพ่อคุณแม่หวนรำลึกความหลังครั้งยัง
หนุ่มสาวกันก่อนว่าใช่ดังที่เขียนมาหรือเปล่า
ตกหลุมรักใครจะอ้อยอิ่งรอพบหน้าเขา บางเวลาก็วิ่งอ้อมไปเดินสวนกันที่มุมตึก
จะได้เข้าใจว่าลูกของเรากำลังเป็นอย่างไร
ถ้าเลือกได้ใครก็ไม่อยากให้ลูกมีความรักหรอกครับ
มาตรฐานคนไทยต้องเรียนหนังสือก่อน
โตแล้วค่อยๆ เลือกก็ยังไม่สาย
เลือกจะรักตอนนี้เดาได้ว่าทั้งไม่ยั่งยืนทั้งเสียอิสรภาพเร็ว พูดง่ายๆ
ว่าเสีย (ดาย) ของ
แต่ลูกๆ ของบางบ้านอินเลิฟไปเสียแล้ว ทำอย่างไรดี
ห้ามก็ไม่ได้แล้วเพราะไฟรักสุมทรวงไปเสียแล้ว
บอกเขาว่า อายุยังน้อยไม่ยั่งยืนหรอก เขาก็ไม่ฟัง
บอกเขาว่าลูกยังมีอนาคตอีกไกล พ่อแม่เสียดายของ...
เอ๋า! แบบนี้ดูถูกคนรักของเขาว่าไม่คู่ควร บอกเขาว่าอยู่เป็นโสดนานๆ
สนุกกว่า ...เฮ้อ! ยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่
ที่ว่าหอพักตามต่างจังหวัดนักเรียนนักศึกษาอยู่กินกันฉันสามีภรรยา
เป็นห้องๆ นั้นจริง ทั้งจริงทั้งเยอะ
เวลาเกิดเหตุเช่นนี้
ผมสังเกตว่าคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่จะรับสะใภ้เข้าบ้านให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป
หมายความว่าแม้คุณพ่อคุณแม่จะไม่เห็นด้วยและไม่ชอบ
แต่ถ้าลูกเขามีหญิงสาวมาพัวพันเสียแล้วก็เอามาไว้ใกล้ตัวซะ
ยินดีต้อนรับมากินข้าวเย็น (พอค่ำมันจะกลับไปอยู่ที่หอพักกันต่อ)
งานวันเกิดลูกก็ยินดีต้อนรับ วันรวมญาติก็ยินดีต้อนรับ
ในทางตรงข้าม ลูกสาวเรามีหนุ่มเทียวรับเทียวส่งเสียแล้ว
ก็รับเข้าบ้านซะ จะได้เห็นหน้าค่าตาให้รู้ว่าใครเป็นใคร
อะไรเป็นอะไร ดีกว่าตัดหางปล่อยวัดแล้วไม่รู้ว่าลูกของเราจะเป็นอย่างไร
บางครั้งก็มิใช่หนุ่มที่มาติดลูกสาว
แต่เป็นทอมมาดแมนก็เห็นบ่อยถึงบ่อยมาก
เห็นพ่อแม่บางคู่ถึงกับไปเยี่ยมพ่อแม่ของอีกฝ่าย
หรือไม่ก็เชิญพ่อแม่ของอีกฝ่ายมากินข้าว
ทำนองว่าเด็กสมัยนี้มันขนาดนี้กันแล้ว พ่อแม่ก็จะขนาดนั้นกันบ้าง
ผมพบว่าคู่หนุ่มสาวเหล่านี้จะเลิกกันไปเองในที่สุดครับ
เรื่องนี้อธิบายได้
เพราะธรรมชาติของหนุ่มสาวนั้นเข้าใกล้ชิดกันเพราะความโหยหาเป็นทุนอยู่แล้ว
ความโหยหานี้เกิดขึ้นตามพัฒนาการของจิตใจ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา
และเป็นเรื่องธรรมชาติ
เป็นวัยที่จิตใจยังไม่มีขอบเขตที่ชัดเจนว่าเราเป็นใคร
จึงโหยหาและแสวงหาคนเติมเต็มไปเรื่อย
บางครั้งก็ไปเรื่อยโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ
แต่เวลาไม่หยุดนิ่ง
เมื่อถึงวันที่ขอบเขตของจิตใจชัดเจนเอาศัพท์เท่ๆ ไปคำมั้ยครับ
เราเรียกขอบเขตของจิตใจนี้ว่า ego boundary เมื่อถึงวันที่จิตใจมี
ขอบเขตชัดเจนรู้ว่าเราเป็นใคร
อะไรที่ไปสวาปามมาเติมเต็มจะกลายเป็นส่วนเกินไปตามธรรมชาติ
ซึ่งก็ต้องคายทิ้งเป็นธรรมดา
เปรียบเทียบกับคุณพ่อคุณแม่อีกกลุ่มหนึ่งที่ด่าทอลูกอย่างรุนแรง
เมื่อค้นพบว่าลูกเรามีใหม่...
เอ๊ย มีอื่น... เอ๊ยมีแฟน แล้วขับไล่ไสส่งลูก
ไม่ต้อนรับไอ้หนุ่มหรืออีสาวแปลกหน้าที่มาทำลูกของเราเสียของ
พบว่าเรื่องราวมักจบลงอย่างเลวร้ายมากกว่า
เรื่องเลวร้ายที่ว่าก็ร้ายจริงๆ คือตั้งครรภ์ ทำแท้ง ติดเอดส์
หนักกว่านี้คือฆ่ากันตายตอนเลิกกัน
อย่างที่บอกไงครับว่าพอถึงเวลาที่อีกคนเป็นสิ่งแปลกปลอมก็ต้องคายทิ้ง
คราวนี้หนุ่มสาวสองคนถูกไล่ออกจากบ้านเสียแล้ว
ไม่มีที่ปรึกษาไม่มีแบบอย่างที่ดีให้ดู
คายทิ้งกันไม่เหมาะสมก็อาจจะต้องตายกันไปข้าง
หนุ่มสาวที่รักกันในสายตาของพ่อแม่ยามที่ต้องคายทิ้งกลับจะนุ่มนวล
กว่า ความเสียหายน้อยกว่า
อกหักน่ะอกหักแน่
เดือดร้อนคุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยดามช่วยให้กำลังใจกลับไปเรียนหนังสือกันต่อ
อีก
และที่แน่ๆ คือเขาเสียตัวให้กันและกันค่อนข้างแน่
เท่าที่ผมทราบ วัยเรียนรักกันมักจบไม่ดี
ไม่เสียหายมากก็เสียหายน้อย ความเสียหายที่ว่าน้อยที่สุดคือการเรียนเสียหาย
การเรียนเสียหายในบ้านเราทุกวันนี้มักจะยุ่งมากในภายหลัง คือ
ทำให้หางานที่เงินเดือนพอกันทำไม่ค่อยได้
ถ้าเลือกได้อย่าได้ริรักในวัยเรียนเป็นอันขาด
แต่ถ้าเลือกไม่ได้
ไฟรักสุมทรวงไปแล้วก็ขอให้รู้จักธรรมชาติของไฟกองนี้
นั่นคือมันเริ่มต้นด้วยความโหยหาระหว่างนั้นให้ระวังเรื่องเสียการเรียน
ตั้งครรภ์ ทำแท้ง ติดเอดส์
เวลาจะคายคู่ (ที่เคย) รักทิ้งก็ให้ค่อยๆ ดับไฟ
อย่าสาดน้ำสาดทรายกระทืบซ้ำกันรุนแรงเกินไป
จะจบลงด้วยการฆ่ากันตาย
(update 28 เมษายน 2005)
[ ที่มา..
kids&family ปีที่ 9 ฉบับที่ 107 กุมภาพันธ์ 2548 ] |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
[ ที่มา...http://www.elib-online.com/doctors48/teen_love001.html ]
|
|
|
URL
Link :
http://www.elib-online.com/doctors48/teen_love001.html |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|