บทความเกี่ยวกับ ครอบครัว
คนเป็นคนที่ - 2447 [Date : 17 เม.ย. 2553 ]   
 
ได้อย่างไรว่า หวานใจมี กิ๊ก
 
วันที่ 17 เม.ย. 2553   โดย พิมพิลาไลย
 
 
รู้ได้อย่างไรว่า หวานใจมี กิ๊ก
 

รู้ได้อย่างไรว่า หวานใจมี กิ๊ก


ด้วยเพราะสัญชาตญาณของเพศชายเป็นนักไล่ล่า “สัมพันธ์” ในขณะที่เพศเมียนั้น มีสัญชาตญาณของความเป็นแม่ ความต่างจึงทำให้เกิดความห่างกลายเป็นช่องว่าง ให้มีบางสิ่งบางอย่างที่ปัจจุบันกาลเราเรียกกันว่า “กิ๊ก” ผ่านเข้ามา

” ทำอย่างไรจึงจะรู้ได้ว่าคนข้างกายของเราแอบไปมีกิ๊ก ??” ไม่ยากหรอกค่ะ ที่จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเขา (หรืออาจจะของเธอในกรณีกลับกัน) แต่ก่อนที่จะลงทุนลงแรงสืบค้นด้วยตนเองนั้น ลองถามใจตัวเองสักนิดก่อนนะคะว่า อยากทราบคำตอบไปเพื่ออะไรกัน หากรู้ความจริงไปเพื่อโศกเศร้าเสียใจก็อย่าทำร้ายตัวเองเลยค่ะ อยู่เฉยๆ ดีกว่า คิดเสียว่า “กิ๊ก” มาแล้วก็ไป ก็แค่นั้น แต่ถ้าคุณคือคนที่ไม่ชอบอะไรคลุมเครือ อยากรู้ความจริงให้มันชัดเจนลงไปเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้ล่ะก็ ลองมาดูกันนะคะว่า คนรักของคุณมีอาการใด ส่อเป็นนัยๆ ว่าแอบปันใจให้ใคร ดังนี้หรือเปล่า


1. เขามีทีท่าเหม่อลอย เผลออมยิ้มเวลาอยู่คนเดียวบ่อยๆ แค่เรียกเบาๆ ก็สะดุ้ง อาการอย่างนี้ คุณเองก็เคยเป็นใช่ไหมล่ะ ตอนที่กำลังตกหลุมรักใครสักคน ถ้าหวานใจของคุณมีอาการอย่างนี้ แม้ในขณะที่มีคุณอยู่ข้างกายล่ะก็ ท้องฟ้าชักปรากฏเงาดำทะมึนเสียแล้วล่ะค่ะ (ส่อเค้าว่าพายุร้ายกำลังจะตามมาอีกไม่ช้า) อย่างเช่น ในรายของจอยสาวมั่นนักการตลาดที่เริ่มสะดุดกับอาการที่ว่านี้ของสามีซึ่งเป็นนายตำรวจใหญ่ “แค่เรียกชื่อเบาๆ เขาก็สะดุ้งตกใจ นั่งรถไปด้วยกันเขาก็เอาแต่เปิดเพลงรักหวานๆ ที่เคยบอกฉันว่าไม่ชอบฟัง เขาเปลี่ยนไปมากจนฉันเริ่มสังเกตเห็น” จอยตัดสินใจถามสามีไปตรงๆ ในคืนวันหนึ่ง ที่เธอทำใจยอมรับได้ไม่ว่าคำตอบของเขาจะออกมาในรูปแบบใด หลังจากนั้นเธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายขอหย่า “ฉันคิดถูกที่ตัดสินใจถามเขาไปตรงๆ ในคืนนั้น คำตอบที่ได้แม้จะทำให้ฉันเสียใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันต้องเสียเวลาอีกต่อไป เป็นไม่ได้หรอกค่ะที่ฉันจะมีสามีร่วมกันกับผู้หญิงอีกคน”

ปัจจุบันจอยมีหน้าที่การงานที่ก้าวหน้ากว่าก่อนที่จะหย่าขาดจากสามีมาก เธอยังไม่เข็ดกับเรื่องความรักแต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาได้สอนให้เธอรู้จักเลือกคบคนมากขึ้น

2. เขาหันมาดูแลเอาใจใส่ตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งกาย รูปร่าง ว้าว!!! ร้อยวันพันปีคุณสามีของอาลิสาเอาแต่กินกับนอนแต่เหตุไฉนอยู่ดีๆ เขากลับลุกขึ้นมาสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนส เข้าคอร์สลดความอ้วน ทุ่มเทกับความหล่อแบบสุดๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนลุคตัวเองเสียใหม่ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า โดยที่อาลิสาไม่ได้ร้องขอและเขาก็ไม่ได้ขอความเห็นจากหล่อนสักคำ ทั้งสองมีลูกด้วยกัน ดังนั้นอาลิสาจึงเลือกที่จะอยู่เฮยๆ นิ่งๆ และเป็นฝ่ายขอบคุณทุกสายโทรศัพท์แห่งความหวังดี ที่โทรเข้ามาแจ้งเบาะแสว่าสามีของหล่อนกำลังไปเดินหล่ออยู่กับใคร “เพราะเขายังคงทำตัวเป็นพ่อที่ดีของลูกๆ อยู่ แม้ฉันพอจะดูออกว่าเขาเปลี่ยนไป แต่นั่นไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ตราบใดที่เขายังคง ทำตัวเสมอต้นเสมอปลายกับครอบครัว” อาลิสาคิดถูกหรือไม่ก็ตามในวันนั้น แต่ในวันนี้ คุณสามีของเธอก็ได้กลับมาเอาแต่กินๆ นอนๆ อยู่กับบ้านเหมือนก่อนหน้าที่จะลุกขึ้นมาเริ่ดทุกประการ

3. มีปัญหากับโทรศัพท์มือถือเป็นประจำในระยะหลังๆ แบตหมด ประชุม ลืมไว้ในรถ สัญญาณไม่มี ฯลฯ สารพัดสารพันที่ทูนหัวของคุณจะนำมาอ้างในการไม่รับสายหรือมือถือปิด ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นเหมือนอย่างกรณีของคุณอมรา “เขาโทรเข้ามาหาฉันบ่อยจนผิดสังเกตค่ะ เวลาที่เขาอยู่นอกบ้าน โทรมาบอกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวจะกลับบ้าน แรกๆ ฉันหลงดีใจ แต่ตอนหลังชักสงสัยเลยลองโทรกลับไป หลังจากที่เขาโทรมาราวสิบนาที ไม่มีคนรับสาย ปิดเครื่อง ฉันแน่ใจว่าเขามีใครอีกคน ก็ตอนที่เขาปิดมือถือตลอดเวลาที่อยู่กับฉัน ฉันโกรธมากค่ะตอนที่มีเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่าเห็นเขาเดินควงกับคนอื่น แต่เมื่อมาไตร่ตรองดูดีๆ แล้วก็เห็นได้ชัดว่าเขายังแคร์ฉันอยู่มาก เลยทำตัวตามปรกติ ปล่อยเขามีปัญหากับโทรศัพท์ไปสักพัก แล้วอยู่มาวันหนึ่งโทรศัพท์ของเขาก็ดีขึ้นมา ไม่มีปัญหาโทรไม่ติดหรือ ไม่มีคนรับสายอีกต่อไปค่ะ ฉันดีใจที่ไม่ใจร้อนหุนหันบอกเลิกเขาไป ด้วยความโกรธในวันนั้น กิ๊กก็ยังเป็นกิ๊กอยู่วันยังค่ำ ฉันไม่ยอมให้อะไรอย่างนั้นมาทำลายความสัมพันธ์ของเราหรอกค่ะ”

4. เอาใจคุณผิดปรกติ เพื่อเป็นการชดเชยความผิดที่ได้กระทำลับหลังคุณ บางครั้งเขาหรือเธอจะทำดีกับคุณมากจนน่าแปลกใจ เหมือนดังเช่นรายของนุจรี นักบัญชีของบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งซึ่งเล่าให้เราฟังว่า “ฉันตกใจมากค่ะที่อยู่ดีๆ วันชัยก็ซื้อเครื่องสำอางชุดใหญ่ที่ฉันเคยบอกว่าอยากได้มาให้ หลังจากนั้นอีกวันต่อมา ก็ซื้อนาฬิกามาฝากเนื่องจากอยากจะขอโทษที่ปล่อยให้ฉันรอเขากลับบ้านจนถึงตีสาม ระยะนั้นเขามีอะไรแปลกๆ หลายอย่างที่บ่งบอกได้ว่า เขาอาจกำลังมีคนใหม่ แต่เขาก็เอาใจฉันมากเหลือเกิน จนวันที่น้องสาวฉันโทรมาบอกว่าเห็นเขาเต็มตากับเลขาคนสวยไปดูหนังด้วยกัน ฉันโกรธมาก มากชนิดที่ว่าอาจฆ่าเขาได้ หากเขาอยู่ใกล้ๆ ฉันบ้าคลั่งปาข้าวของจนเหนื่อย ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา สภาพฉันตอนนั้นคงเหมือนคนบ้าจริงๆ สุดท้ายฉันได้อาศัยธรรมะเข้าสงบจิตใจ แล้วทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงได้เอาใจฉันมากกว่าเดิม เขาอาจจะมีคนใหม่แต่ว่าในใจยังคงแคร์ฉันอยู่ ฉันเลือกที่จะเก็บความเสียใจไว้ข้างใน ทำเป็นไม่รู้เรื่องราวของเขากับแม่เลขาหน้าห้องคนนั้น แล้วหันมาปรับปรุงตัวเองให้สดใสขึ้น ทำดีกับเขามากขึ้น ซึ่งในที่สุด ทุกวันนี้เขากับฉันก็ยังรักกันเหมือนเดิม ฉันไม่ได้เสียเขาไป”

5. กลับบ้านไม่เป็นเวลา มีประชุมสัมมนา เลี้ยงสังสรรค์ถี่ยิบชนิดไม่มีวันหยุด อะไรก็ตามที่แปลกใหม่มักเป็นที่น่าสนใจเสมอ โชคดีที่คุณรัตนาไม่ผูกตัวเองไว้กับสามีมากเกินไป “แทนที่ฉันจะมานั่งเสียใจและวิ่งไล่สืบว่าเขาหายไปไหน ฉันก็เอาเวลามาใส่ใจกับการเลี้ยงลูก และต้นกล้วยไม้ของฉัน ฉันมีความสุขกับการได้ทำในสิ่งที่ฉันชอบเพียงลำพังเวลาที่เขาไม่อยู่ และสุดท้าย ฉันก็ได้รู้ใจตัวเองว่า ฉันอยู่เพียงลำพังอย่างมีความสุขได้มากกว่าอยู่กับเขา เราจากกันด้วยดีค่ะ”


ความรักไม่ได้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ หากมีข้อหนึ่งข้อใดที่คนข้างกายของคุณ เข้าข่ายเป็นไปในลักษณะนั้นล่ะก็ ก่อนอื่นคุณต้องหันมาพิจารณาตัวเองก่อนว่าคุณมีข้อบกพร่องบ้างไหม ในการที่ทำให้เขาหันไปมีคนใหม่ หันไปมี “กิ๊ก” อีกคน


(update 15 มิถุนายน 2004)
[ ที่มา... บันทึกคุณแม่ ปีที่ 10 พฤษภาคม 2547 ]
 
 

[ ที่มา...http://www.elib-online.com/doctors47/family_love003.html ]

URL Link : http://www.elib-online.com/doctors47/family_love003.html

 

     
   


[Home] [โรคเด็ก] [เสพสมให้สมอารมณ์หมาย] [คู่มือเลี้ยงลูก] [คลินิกเด็ก] [ผู้สูงวัย] [ครอบครัว] [คุมกำเนิด] [วัยรุ่น] [เบี่ยงเบน] [กฏหมาย] [สุขภาพจิต] [ผู้หญิง ผู้หญิง] [กามโรค]