บทความเกี่ยวกับ เสพสมให้สมอารมณ์หมาย
คนเป็นคนที่ - 21320 [Date : 25 ม.ค. 2551 ]   
 
SEX ไร้เสียงเพื่อลูก
 
วันที่ 25 ม.ค. 2551   โดย นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์
 
 

 

 

ดิฉันและสามีให้ลูกนอนอยู่ในห้องเดียวกันค่ะ ไมได้แยกห้อง เวลา xxx กันจึงไม่ค่อยมี เพราะกลัวลูกตื่นมาเห็น ขอทราบเทคนิควิธีมีเซ็กซ์แบบไร้เสียงได้ไหมคะคุณหมอ

คุณแม่จากทางบ้าน

 

คนบ้านเราส่วนมากก็จะให้ลูกนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ เรียกว่าเอาสะดวกไว้ก่อน ความเป็นส่วนตัวไว้ว่ากันทีหลังตอนหลังก็เลยมีปัญหาลูกสองคนสามคนก็นอนรวมมิตรกันยั้วเยี้ยไปหมด ทางที่ดีต้องวางแผนกันเอาไว้ตั้งแต่ตอนก่อนคลอด จะให้แยกเตียงหรือนอนเตียงเดียวกัน ที่ดีที่สุดควรนอนแยกเตียงไปเลยตั้งแต่แรกเลยจะดีกว่า ซื้อเตียงเด็กอ่อนที่มีล้อลากไปลากมากได้ มีที่กั้นด้านข้างกันเด็กตก ซึ่งมีขายตามห้างเยอะแยะ เวลานอนก็นอนห้องเดียวกันแต่แยกลูกไปนอนอีกมุม เลี้ยงแบบนี้ตั้งแต่เกิด ลูกก็จะชินกับการนอนเตียงแยกไปเอง พ่อกับแม่ก็นอนกันสองคนบนเตียงสบายใจไม่ต้องมีใครมาก้างขวางคอ สุดท้ายถ้าหลีกเลี่ยงไมได้จริงๆ หรือทำยังไงลูกก็ไม่ยอมแยกไปนอนในที่ของเขา ตอนแรกก็ไมได้คิดอะไรหรอก แต่นานเข้าคุณพ่อคุณแม่ก็ได้แต่นอนมองตากันปริบๆ คนละฝั่งเตียง ยิ่งนานวันก็ยิ่งรู้สึกห่างเหินไม่เคยได้นอนกอดนอนสัมผัสกันเลย ผมขอแนะนำให้ลองซื้อที่กั้นข้างเตียงมาใช้สิครับ เป็นแผ่นกั้นข้างเตียงที่มีขาเสียบไว้ใต้ฟูกที่นอน หรือไม่ก็เลื่อนเตียงไปชิดผนัง จะได้ไม่ต้องกลัวลูกตก คุณแม่นอนตรงกลาง คุณพ่อนอนอีกข้างหนึ่งคุณแม่ก็สามารถทำหน้าที่เป็นทั้งแม่เป็นทั้งเมียได้ทั้งสองอย่างในคืนเดียวกัน

ตอนเอาลูกเข้านอน ก็ควรพยายามให้นมลูกมื้อสุดท้ายก่อนนอนให้เต็มอิ่ม พออิ่มเต็มที่ก็จะหลับยาว สะเทือนยังไงลูกก็ยังหลับสนิทไม่ร้องสักแอะ พอเอาลูกเข้านอนเรียบร้อยแล้วก็อย่ารอช้า ทำอะไรก็รีบทำ แต่หลายคนก็จะมีปัญหาว่ามันรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวเหมือนเมื่อก่อน แต่ก่อนมีกันแค่สองคน ทำอะไรผาดแผลงตีลังกายังไงก็ไม่ต้องเกรงใจใคร แต่มีลูกมานอนด้วยนี่สิมันมีบุคคลที่สามที่สี่มาอยู่ด้วย มันรู้สึกพะวงไม่มั่นใจยังไงชอบกล ก้เลยทำให้เรื่องอย่างว่าไม่ค่อยมีรสชาติเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งถ้านอนเตียงสปริงด้วยแล้ว ทำอะไรกันทีก็สะเทือนไปทั้งเตียง บางทีก็ต้องเอามือจับขาลูกเอาไว้ข้างหนึ่ง กลัวลูกจะเด้งตกเตียงไปเสียก่อน บางทีก็ต้องเอาผ้าห่มคลุมโปงกันไว้สองคน ทำอะไรกันใต้ผ้าห่มลำบากนิดหน่อย ร้อนก็ร้อนแต่สบายใจดี หรือบางทีก็ปล่อยให้ลูกยึดเตียงไปซะเลย พอลูกหลับก็ชวนกันไปดูหนังที่ห้องอื่นแทน ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไปในตัว จะได้ไม่จำเจอยู่แต่บรรยากาศเก่าๆ

ถ้าสุดท้ายแล้วยังไงลูกก็ยึดเตียงเราประดุจเตียงมันไปซะแล้ว ก็คงต้องกำหนดเวลาเอาไว้ให้ชัดเจนเลยนะครับว่าจะให้ลูกนอนอยู่ด้วยถึงกี่ขวบกันแน่ ไม่ใช่นอนก่ายรวมกันจนโต คุณอาจนอนเป็นเพื่อนจนลูกหลับ แล้วค่อยย่องกลับมานอนห้องตัวเอง แค่นี้วันชื่นคืนสุขที่เคยนอนกันส่วนตั๊วส่วนตัวก็กลับมาหวานชื่นเหมือนเดิมอีกครั้ง

ครอบครัวของหลายๆ คนที่มีลูกกันแล้วมักจะเจอปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ของคุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนไป จากแต่ก่อนจากความหวานชื่นแบบหนุ่มสาวก็ดูจะจืดจางลง ยิ่งนานวันก็ยิ่งดูห่างเหิน บางทีก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าอะไรมันเปลี่ยนแปลงไป เมื่อมองดูด้านหนึ่งก็มองว่าลูกเป็นสายใยให้ครอบครัว แต่บางครั้งลูกก็ทำให้ความสัมพันธ์ของพ่อแม่จืดจางลงได้เหมือนกัน ดังนั้นทุกคนในครอบครัวต้องดูแลบทบาทของตัวเองให้สมดุลคุณพ่อต้องเป็นพ่อและสามีที่ดีคุณแม่ก็ต้องเป็นแม่และเมียที่ดีในเวลาเดียวกัน แบ่งเวลาให้กัน มีเวลาให้กันทั้งแบบครอบครัวและแบบสองต่อสอง ต่อไปจะมีลูกอีกซักกี่คน ความรักก็ไม่มีวันจืดจางครับ

                        นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์ สูติแพทย์

 

 

 
 

[ ที่มา...นิตยสารดวงใจพ่อแม่ Vol.12 No.144 October 2007 ]

URL Link : http://www.planpublishing.com

 

     
   


[Home] [โรคเด็ก] [เสพสมให้สมอารมณ์หมาย] [คู่มือเลี้ยงลูก] [คลินิกเด็ก] [ผู้สูงวัย] [ครอบครัว] [คุมกำเนิด] [วัยรุ่น] [เบี่ยงเบน] [กฏหมาย] [สุขภาพจิต] [ผู้หญิง ผู้หญิง] [กามโรค]